สวยแบบไหนถึงจะเรียกว่าสวยสมบูรณ์แบบ

ผู้หญิงทุกคนอยากสวยเป็นเรื่องธรรมดา สำหรับคนที่พอจะมีกำลังทรัพย์ก็ไม่อยากวิ่งเข้าไปหามีดหมอ ตัดแต่ง ขูดเหล่าไม่นานก็จะได้หน้าอย่างที่ต้องการ แต่ก็เคยมีคนพูดไว้หลายครั้งเหมือนกัน การไปทำศัลยกรรมครั้งเดียวไม่เคยพอ เพราะทำอย่างเดียวแล้วจะให้สวยทั้งหน้าเป็นไปไม่ได้ อาจต้องใช้รถมอเตอร์ไซด์ป้ายแดงสักคันเพื่อเสริมคาง แล้วก็เอาทองคำสัก 5 บาทเพื่อแลกกับการลดโหนกแก้มสักหน่อย แต่จะว่าไปผิวก็ยังขาวไม่พอคงต้องเอารถไปเข้าไฟแนนท์สักนิดเพื่อแลกกับผิวขาวสักหน่อย ขนาดแค่นี้ยังไม่ลงรายละเอียดลึกเท่าไหร่ หมดไปกี่แสนแล้วลองคิดดู
แต่บางคนที่มีพื้นฐานหน้าตาดีอยู่แล้วก็จัดหน้าทำหน้าอีกนิดหน่อยก็น่ารัก สวยงามดูเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อแล้ว แต่ถ้าเริ่มเสพติดมีดหมอก็จบกัน อีกไม่นานหน้าก็จะเริ่มเข้าสู่วงการพลาสติกที่ไม่สามารถนำความน่ารักกลับมาได้แล้ว แต่สำหรับหลายคนที่ทำหน้าทำตัวแล้วก็สามารถหาเงินมาชดเชยกับที่เสียไปได้แบบไม่น้อย ก็จัดว่าคุ้มค่ากับการลงทุนอย่างมาก แต่ถ้าเป็นสายอ่อนทุนน้อยหรือไม่มีทุนเลยทำอย่างไรกันดีก็อยากจะสวยแบบเขาบ้าง สมัยนี้การแต่งหน้าช่วยได้เยอะมาก เรียกว่าช่วยได้เป็นอย่างดี ดูจากสาวจีนที่สอนการแต่งหน้า ไม่ว่าจะตาชั้นเดียวหรือหน้าใหญ่ขนาดไหนก็ไม่ต้องไปพึ่งมีดหมอแต่อย่างใด แค่ใช้ตัวช่วยที่เป็นเครื่องสำอางก็ดูสวยไม่แพ้สาวศัลยกรรมแล้ว
แต่นอกเหนือจากหน้าตาสวยใส่แล้วสิ่งที่จะทำให้เราสวยสมบูรณ์แบบที่สุด อย่าลืม 5 สิ่งนี้
1.รอยยิ้ม
ต่อให้สวยขนาดไหนแต่ยิ้มไม่เป็นต้องบอกเลยว่าไม่มีเสน่ห์อย่างแน่นอน คนที่ยิ้มเก่งจะมีเสน่ห์กว่าคนสวยหลายเท่า รอยยิ้มคือการเปิดใจให้ผู้ที่ได้รับยิ้มเรานั้น อยากจะคุยอยากจะรู้จักกับเราเป็นที่สุด ยิ่งเราหามุมยิ้มของเราได้แบบมีเสน่ห์ ยิ้มแล้วทำให้โลกทั้งใบกลายเป็นสีชมพูได้ก็ยิ่งควรต้องยิ้มให้มากๆด้วย
2.เสียงหัวเราะ
หัดเป็นคนเส้นตื้นบ้างเจออะไรที่ตลก หรือน่ารักก็หัวเราะไปกับเขาด้วย จะได้ดูเป็นคนน่ารักและน่าสนใจ หลายคนที่หัวเราะเก่งยิ้มเก่ง มีคนชอบมากกว่าคนสวยหลายเท่านัก และเป็นเสียงที่ส่งถึงความสุขให้กับคนที่ได้ยินด้วยเช่นกัน เสียงหัวเราะที่น่ารักจะช่วยให้คนที่กำลังอ่อนล้า หมดแรง มีพลังขึ้นมาด้วย ถึงอย่างไรเสียงหัวเราะก็น่าฟังกว่าเสียงบ่นอย่างแน่นอน
3.พูดจาอ่อนหวาน
สาวหลายคนอาจจะเป็นหวนๆ พูดไม่มีหางเสียงแต่เรื่องแบบนี้เราสามารถหัดพูดกันได้ ถ้าเรารู้ว่าเป็นคนพูดห้าว และไม่มีน้ำเสียงที่อ่อนหวาน ต้องหัดพูดให้ช้าลง พูดด้วยสติให้มากขึ้น การพูดเร็วเกินไป พูดห้วนเกินไปก็จะเข้าตำราโบราณ ที่ว่า “สวยแต่รูปจูบไม่หอม” ทุกครั้งที่เราได้เจอคนที่สวย ที่หล่อก็มีความหวังว่าเราจะได้ยินคำหวานจากปากเขาเหล่านั้น แต่ถ้าพูดไม่เข้าหูก็จบเกมส์ คงไม่ได้ไปต่ออย่างแน่นอน
4.แต่งตัวให้น่ารักเข้าไว้
การแต่งตัวให้น่ารักนั้นคือการแต่งตัวให้เหมาะกับกาลเทศะด้วย อย่างการที่เราไปเดินเที่ยวตามตลาดนัดจะแต่งตัวสวยเกินจริงดูแล้วเหมือนเจ้ไปเดินตลาดก็ไม่เหมาะ หรืออย่างการไปเดินห้างสรรพสินค้าแล้วก็ลากรองเท้าแตะเก่าๆ ไปก็ดูไม่ค่อยจะน่ารักเท่าไหร่ แต่งตัวให้เหมาะกับสถานที่สักเล็กน้อย แค่นี้ก็ดูน่ารักที่สุดแล้ว
5.ทรงผมสำคัญที่สุด
หลายคนรีบออกบ้านไม่ทันที่จะได้จัดทรงผมอย่างที่เคยทำไว้ยิ่งเป็นผู้หญิงด้วยแล้ว ผมยาวจะปล่อยให้ผมชี้ฟูแบบนั้นก็คงจะไม่ดีเท่าไหร่แน่นอน มัดเสียหน่อย รวบให้พอเหมาะกับชุด ถึงจะไม่ได้เด่นกว่าเพื่อนแต่แน่นอนว่าไม่ด้อย ไม่รกรุงรังจนเพื่อนไม่กล้าเดินด้วยอย่างแน่นอน หรือถ้าไม่ทันจริง ๆ ก็อาจจะหาหมวกสวยๆ สักใบมาใส่สักหน่อย ทำให้ดูเป็นทรงสักนิดแค่นี้ก็รอดตายระหว่างวันได้แล้ว
ความสวย ความหล่อ ทุกคนนั้นอยากจะมีกันอยู่แล้ว ไม่ผิดแต่อย่างใด แต่อย่าเข้าใจผิดว่าเราจะต้องหน้าเด็กไปตลอดกาลหรือจะมีหน้าที่สวยถาวรเหมือนถูกสตาฟไว้แต่อย่างใด กาลเวลามักจะคอยมากระชากความสวย ความสุขของเราไปเสมอ แต่อย่าได้กลัวไป เพราะเดี๋ยวนี้ทั้งครีมและเครื่องสำอางรวมไปถึง มีหมอฝีมือดีมาช่วยอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว หมดยุคที่แก่แล้วแก่เลย เราสามารถที่จะสวยตามวัยและสวยอ่อนกว่าวัยได้อย่างสบายๆ กันแล้ว
ถ้าหน้าสวยจิตใจก็ต้องสวยตามไปด้วย สิ่งที่จะทำให้จิตใจสวยได้ตลอดเวลาคือความใจเย็น หลายคนอาจจะบอกว่าให้เข้าวัดบ้าง ทำบุญบ้างหน้าตาจะได้สวยสดใสอยู่ตลอดเวลา แต่ถ้าไม่มีเวลาทำแบบที่เขาแนะนำเราจะทำอย่างไรดี ก็เพียงแต่ต้องมีจิตใจที่คิดบวกไว้ตลอดเวลาดีที่สุด คนที่เครียดทำหน้าเครียดอย่างต่อเนื่อง อาจจะมีหน้าแก่เป็นป้า ทั้งที่อายุเพียงแค่ 29 ก็มีเยอะไป คิดบวกและมีเสียงหัวเราะพร้อมรอยยิ้มเข้าไว้ต่อให้อยู่กับคนสวยด้วยแพทย์รอบตัวเยอะขนาดไหน เชื่อได้เลยว่าเราก็จะเด่นไม่แพ้กับคนเหล่านั้นเช่นกัน

Related Post